สารอาหารสำคัญ คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามพลาด

“You are what you eat กินอย่างไร ได้อย่างนั้น” หลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้

นั่นหมายถึงว่า ถ้ากินอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็จะทำให้เรา มีสุขภาพที่ดีเช่นกัน แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ใช่เพียง แค่นั้น เพราะทุกอย่างที่กินเข้าไปยังส่งผลต่อสุขภาพของ ลูกน้อยในครรภ์ด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายจึงไม่ควรพลาด สารอาหารสำคัญและจำเป็นเหล่านี้

โปรตีน

เหมาะสำหรับทุกช่วงเดือน เพราะเป็น สารสำคัญใน การสร้างและเพิ่มขนาดเซลล์ สร้างน้ำนม เพิ่มปริมาณเลือด สร้างน้ำย่อย ภูมิคุ้มกันและซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอ พบมากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ปลา นม ไข่ รวมถึงถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ และนมถั่วเหลือง

คาร์โบไฮเดรต

เหมาะสำหรับสามเดือนแรกที่มีอาการ แพ้ท้อง เพราะ เป็นสารอาหารที่กินง่าย ย่อยง่ายและ ให้พลังงานแก่ร่างกาย พบมากในอาหารประเภท ข้าว ขนมปัง ธัญพืช และผลไม้

ธาตุเหล็ก

เหมาะสำหรับช่วง 4-9 เดือน เพราะช่วงนี้ ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มสร้างน้ำนม มีการเพิ่มปริมาณเลือด ในช่วงนี้ อาหารที่มีธาตุเหล็กเพียงพอจะทำให้เม็ดเลือดแดงดี และน้ำนมมีคุณภาพ พบมากในงา ตับสัตว์ เนื้อแดง ไข่แดง ผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักโขม

ไอโอดีน

เหมาะสำหรับช่วง 4-9 เดือน เพราะมี ความสำคัญต่อพัฒนาการทางสมอง ระบบประสาทและ ความจำของลูก พบมากในอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล กุ้ง หอย ปลาหมึก สาหร่ายทะเล และผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน เช่น เกลือเสริมไอโอดีน และน้ำปลาเสริมไอโอดีน

โฟเลต

เหมาะสำหรับทุกช่วงเดือน เพราะ มีความจำเป็นต่อการสร้างสารพันธุกรรม และทำให้ เลือดมีความสมบูรณ์ ช่วยสร้างเซลล์สมอง ระบบ ประสาทและไขสันหลัง ของลูกน้อยในครรภ์ โฟเลต พบมากในตับสัตว์ บร็อกโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม และแคนตาลูป

โอเมก้า 3

เหมาะสำหรับช่วง 4-9 เดือน เพราะช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์สมองและ รอยหยักในสมอง เพิ่มประสิทธิภาพความจำและ สายตา พบมากในปลาทะเล เช่น ปลาทูน่า ปลาโอ ปลาทู ปลาแซลมอน และสาหร่ายทะเล

วิตามินบี 2

เหมาะสำหรับทุกช่วงเดือน เพราะช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาสมองของลูก หากได้รับไม่เพียงพอจะทำให้สมองของทารกมีขนาดเล็ก พบมากในนม ไข่แดง เนื้อสัตว์ ตับ และโยเกิร์ต

วิตามินบี 6

เหมาะสำหรับทุกช่วงเดือน เพราะช่วยในการสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ของสมองและระบบประสาท วิตามินบี 6 พบมากใน เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวโอ๊ต มันฝรั่ง และกล้วย

วิตามินบี 12

เหมาะสำหรับทุกช่วงเดือน เพราะช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้มีขนาดปกติ ทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโต เซลล์สมองได้รับ เลือดหล่อเลี้ยง ได้รับสารอาหารและออกซิเจน อย่างเพียงพอ ทำให้การทำงานของสมองและประสาท เป็นปกติ พบมากในอาหารประเภทตับสัตว์ เนื้อสัตว์ ไข่ นม และหอยนางรม

นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำบ่อยๆ ประมาณ 8-10 แก้ว ต่อวัน เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง ช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ในสมอง เพื่อสุขภาพที่ดีของ คุณแม่และพัฒนาการที่สมวัยของลูกน้อยในครรภ์

ที่มา:กรมอนามัย

อย.ห่วงใยน้ำนมแม่ควรรับและบริจาคผ่านธนาคารนมแม่ที่มีมาตรฐาน เตือนอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์อวดอ้าางเพิ่มน้ำนม

 แนะเด็กทารกควรได้รับนมแม่มากกว่าเพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์สำหรับลูกมากที่สุดส่วนคุณแม่ที่ต้องการรับและบริจาคน้ำนม ควรรับและบริจาคผ่านธนาคารนมแม่ที่มีระบบฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน  เพื่อความ ปลอดภัยของลูกน้อย  หากพบเด็กได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการดื่มนมแม่ที่บริจาคจะถือว่าผู้บริจาคมีความผิดทางกฎหมาย  เตือนคุณแม่อย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณเพิ่มน้ำนม อย. ไม่เคยอนุญาต ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างลักษณะนี้ 

 นายแพทย์ธเรศ  กรัษนัยรวิวงค์  เลขาธิการคณะกรรมการ อาหารและยาเปิดเผยว่า  จากกรณีที่มีข่าวดารานักแสดงได้ประกาศ บริจาคนมแม่ของตนเองและมีการถกเถียงเกี่ยวกับการบริจาคน้ำนม และความปลอดภัยนั้น  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  (อย.) ขอชี้แจงว่า  การบริจาคนมแม่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการดื่มนมแม่ ในเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักตัวน้อย  และทารกที่มี ปัญหาการเจ็บป่วยซึ่งแม่มีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอ  โดยมีการบริหาร จัดการในลักษณะของธนาคารนมแม่  ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารนมแม่ จำนวน  2  แห่ง  ได้แก่  ธนาคารนมแม่ศิริราช  และธนาคารนมแม่ รามาธิบดี  ดำเนินการภายใต้ภาควิชากุมารเวชศาสตร์  คณะ แพทยศาสตร์  ซึ่งได้นำมาตรฐานของคลินิกนมแม่ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา  อังกฤษ  ออสเตรเลีย  มาจัดทำหลักเกณฑ์และปรับให้สอดคล้องกับบริษัทของประเทศไทย  สำหรับคุณแม่ที่จะบริจาคน้ำนมจำเป็นต้องได้รับการซักประวัติ  และการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการว่า  ไม่เจ็บป่วยหรือติด เชื้อ  เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพน้ำนมที่บริจาค  เมื่อพบว่าผลการตรวจวิเคราะห์ผ่านมาตรฐานแล้วจึงจะจ่ายให้เด็กทารก ในโรงพยาบาลต่อไป ทั้งนี  การบริจาคน้ำนมแม่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายจึงไม่ต้องขออนุญาตกัับ  อย.  

 แต่อย่างไรก็ตาม  อย. มีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับอาหารที่ปลอดภัย  หากพบมีเด็กได้รับอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการดื่มนม แม่ที่บริจาคจะถือว่าผู้บริจาคมีความผิดทางกฎหมายกรณีผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์  ต้องระวางโทษเลขาธิการ  ฯ  อย. กล่าวในตอนท้ายว่ำ  การส่งเสริมการดื่มนมแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดี  เนื่องจากนมแม่เป็นอาหาร ที่มีประโยชน์สูง  สำหรับเด็กปกติสนับสนุนให้เด็กกินนมแม่ตนเอง  หากจำเป็นต้องได้รับการบริจาคนมแม่จะต้อง ได้รับผ่านธนาคารนมแม่ที่มีกระบวนการคัดกรองโรคและฆ่าเชื้อนมที่มีมาตรฐาน  เนื่องจากเด็กอาจมีความเสี่ยงต่อ การเจ็บป่วยได้  ส่วนคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อยหรือมีปัญหาเรื่องการให้นมแม่  สามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ที่ คลินิกนมแม่  ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน  หรือสำนักส่งเสริมสุขภาพ  กรมอนามัย  ไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเพิ่มน้ำนมมารับประทานเองเนื่องจากสตรีมีครรภ์และแม่ที่อยู่ในช่วงการให้นม ลูกถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องมีความตระหนักและระมัดระวังในการเลือกบริโภคอาหาร  เนื่องจากอาหารทุกชนิดที่แม่ รับประทานจะมีผลโดยตรงต่อทารกด้วย  หากมีความประสงค์จะบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  ต้องปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญก่อนการบริโภค  และขอย้ำว่า  อย.  ไม่เคยอนุญาตการกล่าวอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดังกล่าวว่า  สามารถช่วยเพิ่มน้ำนมได้  หากผู้บริโภคพบเห็นอาหารที่ไม่ปลอดภัยหรือสงสัยในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐานหรือความปลอดภัยของอาหาร  ขอให้ร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน  อย.  โทร.  1556 หรือ  E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.  หรือตู้  ปณ.  1556  ปณฝ.  กระทรวงสาธารณสุข  จ.นนทบุรี  11000    หรือผานทาง    Oryor  Smart  Application  หรือ  Line  @FDAthai  หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อ  อย. จะเข้าตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดต่อไป จำคุกไม่เกิน  2  ปี หรือปรับไม่เกิน  2  หมื่นบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ที่มา:สำนักกงานคณะกรรมการอาหารและยา

เด็กจมน้ำ ป้องกันได้

กิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆ ชื่นชอบ คือ การเล่นน้ำ ในช่วงหน้าร้อนทั้งสระว่ายน้ำ สวนน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวตามน้ำตก และแหล่งน้ำธรรมชาติ บ่อหรือคลอง จะได้รับความนิยมเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของครอบครัว แต่อุบัติเหตุการจมน้ำทำให้ความสนุกสนานกลายเป็นเรื่องเศร้าเพราะบางรายถึงขั้นเสียชีวิต ในรอบ 10 ปี (ปี 2546-2556) พบตัวเลขที่น่าตกใจ มีเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำ เฉลี่ยปีละ 1,388 คน หรือวันละ 4 คน โดยเกิดเหตุตามแหล่งน้ำธรรมชาติมากที่สุด รองลงมา คือ สระว่ายน้ำและอ่างอาบน้ำ ซึ่งสาเหตุการจมน้ำนั้น เกิดจากการที่เด็กลงไปเล่นน้ำ และไม่ได้เล่นน้ำ เช่น การเล่นบริเวณใกล้ๆ แหล่งน้ำจนพลัดตกน้ำ ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษและไม่ควรปล่อยให้ลูกหลานเล่นน้ำตามลำพัง ซึ่งวิธีการดูแลและข้อควรระวังเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำทำได้ ดังนี้

เด็กอายุ14-15

จะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำในแหล่งน้ำบริเวณรอบบ้าน ผู้ปกครองควรดูแลเด็กใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำในสระน้ำตามลำพัง สร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัย ด้วยการปิดประตูห้องน้ำให้สนิท จัดให้มีฝาปิดหรือ ครอบภาชนะกักเก็บน้ำ ทำรั้วกั้นบริเวณรอบบ่อน้ำ ไม่ให้เด็กเล่นใกล้แหล่งน้ำหรือริมตลิ่งน้ำ เพราะเด็กอาจลื่นตกน้ำได้

เด็กอายุ 15-17 ปี
จะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำและเสียชีวิตบริเวณแหล่งน้ำในชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำผู้ปกครองควรสอนให้เด็กว่ายน้ำเป็นและดูแลเด็ใกล้ชิดขณะเล่นน้ำหากเด็กเป็นตะคริวหรือถูกคลื่นน้ำดูดจะได้ช่วยเหลือเด็กได้ทันท่วงที   

การป้องกันตนเองสำคัญที่สุดสำหรับเด็กควรสนับสนุนให้เด็กเรียนหรือฝึกว่ายน้ำเพื่อให้มีความรู้และทักษะการเอาชีวิตรอดพ่อแม่ผู้ปกครองควรมีความรู้การช่วยเหลือเด็กเมื่อเกิดเหตุขณะเล่นน้ำการเล่นนำ้ในสระว่ายน้ำเด็กๆควร  

ทีมา:กรมอนามัย

 

สถิติผู้เข้าชม

9891737
วันนี้
เมื่อวาน
สัปดาห์นี้
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ทุกวัน
4056
7131
41243
44490
149752
9891737

กลุ่มงาน

ควบคุมโรคติดต่อ
ควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิตฯ
คุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข
ทันตสาธารณสุข
นิติการ
บริหารทรัพยากรบุคคล
บริหารทั่วไป

และหน่วยงานภายใน

ประกันสุขภาพ
พัฒนาคุณภาพและรูปแบบบริการ
พัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข
แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ส่งเสริมสุขภาพ
อนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอานามัย
สำนักงานเลขานุการและอำนวยการ
สหกรณ์ออมทรัพย์

ติดต่อเรา

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

037 211 626

037 211 124

104 ม.8 ต.รอบเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี 25000
  (เลขเสียภาษี 0994000261438)